Monday, November 19, 2012

ประวัติ 10 สถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลก อันดับ 9 อุโมงค์ที่ฝรั่งเศส กรุงปารีส


เอาล่ะขอรับ มาต่อกันที่ประวัติของอันดับ 9 กันเลย~~~

อันดับ 9 อุโมงค์ที่ฝรั่งเศส กรุงปารีส (Pont de L’Alma)

อุโมงค์ที่ฝรั่งเศส กรุงปารีส (Pont de L’Alma)

1 ในสถานที่ๆเราจะต้องนึกถึงกันแน่นอนเมื่อไปกรุงปารีส ที่ครั้งนึงเคยมีข่าวใหญ่ที่ทำให้ทั้งคนในปารีสและเราๆต่างช็อกไปตามๆกัน กับที่นี้ อุโมงค์ที่ฝรั่งเศส กรุงปารีส แล้วข่าวใหญ่ที่ว่าก็คือ การสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา แล้วมันน่ากลัวยังไง?
ก็เจ้าหญิงไดอานานั้นสิ้นพระชนม์อย่างไร้สาเหตุภายในอุโมงค์นี้ สาเหตุที่สิ้นพระชนม์นั้นเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุภายในอุโมงค์แห่งนี้ จากคำบอกเล่านั้น คืนที่เกิดโศกนาฏกรรม มีการเปลี่ยนเส้นทางรถยนต์ไปยังอุโมงค์ Pont de L’Alma อย่างไม่มีเหตุผล และอยู่ๆวิทยุสื่อสารของตำรวจในกรุงปารีส ดันใช้การได้โดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่รถยนต์พระที่นั่งของเจ้าหญิงเดินทางเข้าสู่อุโมงค์ จนเกิดเหตุร้ายและไม่สามารถติดต่อสื่อสารเพื่อขอรับการช่วยเหลือเพื่อรักษาพระชนม์ชีพของพระองค์ได้อย่างทันท่วงที 

ภาพการเปลี่ยนแปลงเส้นทางจนถึงตอนเกิดอุบัติเหตุ


แต่ว่ามันเป็นอย่างงั้นจริงหรือ? ไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ? เราจะมาไขปริศนากันต่อครับ

ก่อนที่เราจะเจาะลึกันนั้น กระผมขอพาไปศึกษาชีวประวัติของเจ้าหญิงไดอานากันสักนิดนะครับ


เจ้าหญิงไดอานาหรือพระนามเต็มคือ ไดอานา ฟรานเซส มีสกุลเดิมคือ สเปนเซอร์ (Diana Frances, née The Lady Diana Spencer)  ประสูติเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ.1961 เวลา 18.39 น. ที่ปาร์กเฮ้าส์ เมืองแซนดริงแฮม มณฑลนอร์ฟอล์ก เจ้าหญิงไดอานามีพี่น้องทั้งหมด 5 คนและพระองค์ก็เป็นคนที่ 3 ใน 5 คนทั้งหมด ทรงดำรงพระอิสริยยศเจ้าหญิงแห่งเวลส์ เป็นพระองค์ที่ 9 ของอังกฤษ สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปนิยมขนานพระนามว่า "เจ้าหญิงไดอานา" ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วเค้าว่าพระนามนี้ถือว่าผิดในทางทฤษฎี ( ทฤษฎีอะไรล่ะเนี้ย - -" ) 
เจ้าหญิงไดอานาเป็นพระชายาพระองค์แรกของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ แห่งเวลส์ 


จากการอภิเษกสมรสเมื่อปี ค.ศ.1981 และได้ทรงหย่าขาดเมื่อปี ค.ศ. 1996 ( หลังกระผมเกิดได้ปีนึงเองอ่ะ OwO ) ว่าแต่แล้วทำไมต้องหย่า?

( ต่อไปขออนุญาติใช้คำสามัญชนล่ะกันนะครับ จะได้สะดวกต่อการศึกษา )

อันที่จริงก่อนหน้านี้นั้นระหว่างการสมรส พระองค์ทั้งสองต่างรักกันมาก ปานจะกลืนกินกันทั้งตัวได้เลยล่ะ ^ ^" แต่แล้วจู่ๆ ก็มีข่าวไม่ค่อยดีเกี่ยวกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลเข้าหู ( เอ๊ะ! หรือเข้าตา? ) เจ้าหญิงไดอานาจนได้ว่าระหว่างปี 1985 -1986 เมื่อเจ้าชายกลับไปมีความสัมพันธ์กับคนรักเก่าคือ นางคามิลลา ( ต่อมาเป็นภรรยาของแอนดริว ปาร์กเกอร์-โบวส์ ) ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ถูกเปิดเผยผ่านหนังสือ Diana: Her True Story โดยแอนดริว มอร์ตัน

หนังสือ Diana: Her True Story

ซึ่งวางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม 1992 เปิดเผยชีวิตส่วนตัวของไดอานาที่เผชิญหน้ากับชีวิตสมรสที่ไร้ซึ่งความสุข และพยายามปลงชีพตัวเองถึง 5 ครั้ง เพราะเครียดในหลายเรื่องๆ ทั้งความกดดันในชีวิตสมรสและสาธารณชนที่จับจ้องมองเธอตลอดเวลา ( แหงล่ะ ก็ป๊อปซะขนาดนั้น ) 
และต่อมาเรื่องก็ค่อยๆแดงขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเมื่อ กุมภาพันธ์ 1996 ไดอานาก็ตกลงที่จะหย่าภายใต้เงื่อนไขที่สร้างความไม่พอใจแก่ราชสำนักอยู่มิใช่น้อย คือ ไดอานาได้รับค่าเลี้ยงดูราว 17 ล้านปอนด์จากอดีตพระสวามี และอื่นๆ โดยไม่กี่วันก่อนการหย่าจะเสร็จสมบูรณ์สำนักพระราชวังได้ประกาศให้ไดอานาพ้นจากสถานะชายาของเจ้าชายแห่งเวลส์ทันที และสูญเสียอิสริยศชั้นเจ้าฟ้า (Her Royal Highness) คงใช้แต่เพียงพระนาม ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ( หว๊า~ ถูกปลดซะล่ะ =o= )

ซึ่งต่อมาไม่นานไดอานาก็ได้เสียชีวิตโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ทว่าภายใต้การเสียชีวิตนั้นมีเงื่อนงำอยู่หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น วิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จู่ๆก็ใช้การไม่ได้ กล้องวงจรปิดภายในอุโมงค์ที่บันทึกภาพอะไรไม่ได้เลย และรถพยาบาลที่ไปถึงที่เกิดเหตุล่าช้าเกิดทั้งๆที่ระยะทางแค่ 4.8 กิโลเมตร ._.?

ถึงแม้ว่าเบื้องต้นจะสรุปว่า เกิดจากผู้ขับรถให้เจ้าหญิงไดอานานาม อองรี ปอล นั้นเมาจนเสียสติ และขับรถพุ่งเข้าชนเสาแบ่งเลนงามๆในอุโมงค์แบบเน้นๆจนสภาพรถยับเยิน ( แห่ม เป้าหมายมีพุ่งชนจริงๆ =w=" ) แต่แล้วหลังจากนั้นด้วยข้อเคลือบใจทั้งปวงทำให้ได้มีการหยิบคดีของไดอานาขึ้นมาปัดฝุ่นกันใหม่อีกครั้ง โดยทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนทุกแขนงต่างร่วมมือกัน สืบค้นเบาะแสกันแบบพลิกแผ่นดิน โดยมีการพาดพิงถึงไดอารีส่วนพระองค์ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ชีวิตของเจ้าหญิงกำลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง และพระองค์อาจสิ้นพระชนม์ด้วยการถูกปองร้ายโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์รวมทั้งมีพยานผู้ร่วมเหตุการณ์บางราย เอ่ยพาดพิงถึง เสียงดังสนั่นคล้ายเสียงปืนในขณะเกิดเหตุและภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุไม่นาน

ภาพจากกล้องวงจกปิดก่อนเกิดอุบัติเหตุ

ทั้งนี้มีข้ออ้างเรื่อง แผนลอบสังหาร ปรากฏในจดหมายของเจ้าหญิงไดอาน่าที่ระบุว่า สมาชิกระดับสูงในราชวงศ์อังกฤษ มีแผนการที่จะสังหารเจ้าหญิงไดอาน่า จดหมายดังกล่าวจึงเป็นหลักฐานชี้นำให้ต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ตามคำร้องของ นายไมเคิล เบอร์กีส เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ที่ระบุว่าตำรวจระดับสูงของอังกฤษ ควรจะดำเนินการสอบสวนข้ออ้างดังกล่าวที่ว่า การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุ แต่เป็นการวางแผนอย่างแยบยล
ซึ่งรายละเอียดของจดหมายฉบับดังกล่าวของเจ้าหญิงไดอาน่า ถูกนำมาเปิดเผยเมื่อเดือนมกราคม 2004 ระบุว่า มีการวางแผนให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยการตัดสายเบรก ซึ่งจดหมายอันสร้างความสั่นสะเทือนไปทั้งโลกฉบับนี้ นายพอล เบอร์เรลล์ อดีตมหาดเล็กของเจ้าหญิงไดอาน่า ยืนยันว่าเจ้าหญิงเขียนไว้ 10 เดือนก่อนที่พระองค์จะประสบอุบัติเหตุ 

ขณะเดียวกัน ดร.จอห์น เบอร์ตัน อดีตเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเจ้าหญิงไดอาน่า ยังระบุด้วยว่า พระองค์ไม่ได้ทรงตั้งครรภ์ในขณะสิ้นพระชนม์

ทั้งนี้ในส่วนของการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส มีผลสรุปออกมาหลังใช้เวลาในการสอบสวนนานกว่า 2 ปีว่า อุบัติเหตุที่คร่าชีวิตเจ้าหญิงไดอาน่า และ โดดี้ อัล ฟาเยด เป็นผลมาจากความผิดพลาดของ นายอองรี ปอล คนขับรถ เนื่องจากอยู่ในสภาพเมาสุราและฤทธิ์ยา รวมทั้งขับรถด้วย ความเร็วสูงเกินกำหนด ( และพุ่งเข้าชนเสาแบ่งเลนในอุโมงค์อย่างจัง ) 

ภาพจำลองสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุ

อย่างไรก็ตามล่าสุด สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ว่า หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ซันเดย์ ไทมส์ ของอังกฤษรายงานว่า " เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กรณี การเสียชีวิตของเจ้าหญิงไดอาน่า อดีตพระชายาของพระองค์ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 1997 " โดย ลอร์ด จอห์น สตีเวนส์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลอนดอน ได้เข้าพบเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ที่ พระตำหนักคลาเรนซ์ เป็นเวลานานหลายชั่วโมง หลังจากมีข้อสันนิษฐานว่าเจ้าหญิงไดอาน่าอาจตกเป็นเหยื่อในแผนลอบสังหาร 

ขณะเดียวกันโฆษกส่วนพระองค์ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ แถลงยืนยันว่า อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลอนดอนได้เข้าพบเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์จริง เพื่อสืบสวนกรณีการเสียชีวิตของเจ้าหญิงไดอาน่า แต่ทางโฆษกนั้นไม่ขอแสดงความเห็นใดๆ เพราะเกรงว่าอาจจะเป็นการชี้นำให้เกิดการเข้าใจผิดได้ 

แต่้สุดท้าย คดีก็ได้ที่สรุปมาว่า เป็นผลจากความประมาทที่เห็นได้ชัดจากการขับขี่ของอองรี ปอลที่เร่งความเร็วของรถยนต์เพื่อหลบหนีการไล่ตามของเหล่าช่างภาพ
สุดท้ายไม่กี่วันต่อมานายโมฮัมหมัด ฟาเยด ประกาศยุติการต่อสู้คดีมรณกรรมที่ยาวนานกว่า 10 ปี เพราะเห็นแก่พระโอรสทั้งสองของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ผู้ล่วงลับไปแล้ว

Credit:

More information:
บทความ รักเร้นของวังบัคกิ้งแฮม
งานแต่งงานของเจ้าหญิงไดอาน่า...