Monday, December 31, 2012

Happy New Year! สุขสันต์วันปีใหม่


สวัสดีครับทุกคน ฮ่าๆๆ ไปฉลองคริสต์มาสมาขอรับ เอิ้กๆ หนุกมากมาย
จะว่าไปก็ใกล้ปีใหม่แล้ว ตอนนี้หลายๆคนก็คงจะเริ่มวางแผนกิจกรรม ไม่ก็แผนท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวกันแล้ว กระผมเองก็เหมือนกันขอรับ แต่ อ่ะๆ อย่าเพิ่งคิดนะครับว่ากระผมวางแผนจะเที่ยวหรือกจิกรรม ที่กระผมกำลังวางแผนคือ แผนปรับปรุงเว็บบล็อกในปีต่อไปสำหรับทุกคนขอรับ ว่ะ ฮ่ะๆ ฮ่า ( อวดคุณงามความดีก่อนทำสักหน่อย เหอๆ =w=" ) 

เอ้าล่ะ วันปีใหม่ทั้งที ก่อนจะเที่ยวหรือเริ่มกิจกรรมอันใด กระผมขอพาไปเจาะลึกถึงประวัติวันปีใหม่กัน จะได้เริ่มปีใหม่แบบได้ความรู้กัน

( ภาพโดย เกมเศรษฐีออนไลน์ จาก DMC TV )

วันปีใหม่คือ?
ถามอะไรไร้สาระอีกแล้วเนอะ =w=" ใครๆก็ต้องรู้แยู่แล้วล่ะ ว่ามันคือวันครบรอบปีเก่าและขึ้นปีใหม่ ครับ วันขึ้นปีใหม่ก็คือวันครบรอบปีนั้นเอง แต่เอาตามตามพจนานุกรม ฉบับราชตบัณฑิตยสถานแล้ว ก็จะได้ความหมายว่า ช่วงเวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบหนึ่งครั้ง ราวๆ 365 วัน หรือ 12 เดือนตามสุริยคติ วันนี้ถูกกำหนดให้เป็นวันหยุดข้าราชการ เป็นวันแห่งการเตรียมความพร้อมเพื่อเริ่มปีใหม่ด้วยสิ่งดีๆกัน แล้วที่มาของวันนี้ล่ะ? เราจะมาเจาะลึกกันต่อครับ

( ภาพโดย Sanook จาก คําคม108  )

ที่มาและที่เกิด!? ของวันปีใหม่
วันปีใหม่ในสากลโลกนั้น มีประวัติมาอย่างยาวนาน เริ่มต้นตั้งแต่ในสมัยเริ่มแรกเมื่อชาวบาบิโลเนียเริ่มคิดค้นการใช้ปฏิทิน ( น่าจะเพื่อความสะดวกในการทำการเกษตร ^ ^ ) โดยอาศัยระยะต่าง ๆ ของดวงจันทร์เป็นหลักในการนับ โดยกำนหดให้เมื่อครบ 12 เดือนแล้วจะเป็น 1 ปี และเพื่อให้เกิดความพอดีระหว่างปฏิทินกับฤดูกาล จึงได้เพิ่มเดือนเข้าไปอีก 1 เดือน เป็น 13 เดือนในทุก 4 ปี ( มันเริ่มตรงนี้นี่เอง =^= )

ต่อมาชาวอียิปต์ กรีก และชาวเซมิติค ได้จิ๊ก เอ๊ย! ได้นำปฏิทินของชาวบาบิโลเนียมาใช้และมีการดัดแปลงแก้ไขหลายคราวเพื่อให้ตรงกับฤดูกาลมากยิ่งขึ้นจนกระทั่งสมัยของกษัตริย์จูเลียต ซีซาร์ ได้นำความคิดของนักดาราศาสตร์ชาวอียิปต์ชื่อ โยซิเยนิส มาปรับปรุง ให้ปีหนึ่งมี 365 วัน ในทุก ๆ 4 ปี ให้เติมเดือนที่มี 28 วัน เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน เป็น 29 วัน คือเดือนกุมภาพันธ์ เรียกว่า อธิกสุรทิน ( นี้ไงๆ แบบที่เราใช้กันอยู่ในตอนนี้ ^o^ )

เมื่อเพิ่มในเดือนกุมภาพันธ์มี 29 วันในทุก ๆ 4 ปีไปแล้ว แต่วันในปฏิทินก็ยังไม่ค่อยตรงกับฤดูกาลเท่าไหร่นัก คือช่วงเวลาในปฏิทินยาวกว่าช่วงเวลาของแต่ล่ะฤดูกาล เป็นเหตุให้ฤดูกาลมาถึงก่อนวันในปฏิทิน ( อืม เดียวหนาวเดียวร้อนก็คงจะเพราะอย่างงี้สิเนอะ - -" )

และในวันที่ 21 มีนาคมตามปีปฏิทินของทุก ๆ ปี จะเป็นช่วงที่มีเวลากลางวันและกลางคืนเท่ากัน คือเป็นวันที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นตรงทิศตะวันออก และลับลงตรงทิศตะวันตกเป๊ะ! วันนี้ทั่วโลกจึงมีช่วงเวลา เช้า กลางวัน เย็น ค่ำ ดึก และ........ อืม คงจะไม่มีต่อแล้วอ่ะนะครับ -v-" รวมเท่ากับ 12 ชั่วโมง เท่ากัน เรียกว่า วันทิวาราตรีเสมอภาคมีนาคม (Equinox in March)........... ยาวซิบ - -"

แต่ก็เกิดอาเพศในปี พ.ศ. 2125 วัน Equinox in March ดันเกิดขึ้นในวันที่ 11 มีนาคม แทนที่จะเป็นวันที่ 21 มีนาคม เหมือนปรกติ ดังนั้น พระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่ 13 จึงทำการปรับปรุงแก้ไขโดยหักวันออกไป 10 วันจากปีปฏิทิน ปฏิทินแบบใหม่นี้จึงเรียกว่า ปฏิทินเกรกอเรี่ยน จากนั้นได้ปรับปรุงประกาศใช้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันเริ่มต้นของปีเป็นต้นมา

( ภาพโดย คุณ คำคม จาก คําคม108  )

แล้วปีใหม่ในไทยล่ะ?
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วันขึ้นปีใหม่ของไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้วถึงด้วย 4 ครั้ง เรามาดูกันดีกว่า่ครับว่ามีการเปลี่ยนแปลงในแต่ล่ะครั้งอย่างไรบ้าง

- ครั้งแรก ถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ซึ่ง ตรงกับเดือนมกราคม 
- ครั้งที่ 2 กำหนดให้วันขึ้นปีใหม่ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ตามคติพราหมณ์ ซึ่งตรงกับเดือนเมษายน 
การกำหนดวันขึ้นปีใหม่ใน 2 ครั้งนี้ ถือเอาทางจันทรคติเป็นหลัก
- ครั้งที่ 3 ได้ถือเอาทางสุริยคติแทน โดยกำหนดให้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ.2432 เป็นต้นมา 

อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะตามชนบทยังคงยึด!และถือ -o-" เอาวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่กันอยู่ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย ทางราชการก็เล่งเห็นว่าวันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน นั้นกร่อยเสียแล้ว สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะฟื้นฟูมันขึ้นมาใหม่ จึงได้จัดการประกาศว่า " สูเขาจงจัดงานรื่นเริงขึ้นในวันขึ้นปีใหม่นี้ซะ =w=-// " โดยเริ่มเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2477 และจัดขึ้น กรุงเทพฯเป็นครั้งแรก

ซึ่งก็ได้ผลขอรับ! การจัดงานวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 เมษายน ได้แพร่หลายออกไปต่างจังหวัดอย่างรวดเร็วในปีต่อๆมา และในปี พ.ศ.2479 ก็เป็นปีแรกที่ได้มีการจัดงานรื่นเริงปีใหม่กันทุกจังหวัด ทุกภูมิภาค ทั่วประเทศไทย 555+ โดยวันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน ในสมัยนั้นทางราชการเรียกว่า วันตรุษสงกรานต์

ต่อมาได้มีการพิจารณาเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยคณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น ซึ่งมีหลวงวิจิตร วาทการ เป็นประธานกรรมการ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม โดยกำหนดว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2484 เป็นต้นไป ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่นะเออ~

( ภาพโดย คุณ คำคม จาก คําคม108  )

แล้วทำไมต้องเปลี่ยนเป็นวันที่ 1 มกราคม?
นั้นสิเนอะครับ เพราะเดิมที 1 เมษายนนั้น ก็ไม่เป็นอะไรเพราะก็ใช้กันมานมนานแล้ว แถมถ้าเอาวันนี้ล่ะก็ได้จัดที 2 งานเลยล่ะ ทั้งวันปีใหม่แล้วก็วันสงกรานต์ 555 ( คิดง่ายเนอะ - -* ) แต่ว่าไหนๆก็เปลี่ยนไปแล้ว เรามาดูกันดีกว่าครับว่า ทำไมต้องเปลี่ยน

- ไม่ขัดกับพุทธศาสนาในด้านการนับวัน เดือน และการร่วมฉลองปีใหม่ด้วยการทำบุญ 
- เป็นการเลิกวิธีนำเอาลัทธิพราหมณ์มาคร่อมพระพุทธศาสนา 
- ทำให้เข้าสู่ระดับสากลที่ใช้อยู่ในประเทศทั่วโลก 
- เป็นการฟื้นฟูวัฒนธรรม คตินิยม และจารีตประเพณีของชาติไทย 

( ภาพโดย Kapook จาก คําคม108  )

เราควรทำอะไรดีในวันปีใหม่?
สำหรับใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะเริ่มต้นกิจกรรมวันปีใหม่ด้วยอะไรดี กระผมก็มีรายการมาแนะนำขอรับ จะได้มาเริ่มวันปีใหม่ด้วยกัน ^w^ มาดูกันเลยดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง

- ปีใหม่ก็ต้องทำบุญตักบาตรขอรับ โดยอาจตักบาตรที่บ้าน หรือไปที่วัดหรือตามสถานที่ต่างๆที่ทางราชการเชิญชวนไปร่วมทำบุญก็ตามสะดวกได้เลยครับ
- กราบขอพรจากผู้ใหญ่ และอวยพรเพื่อนฝูง มอบของขวัญ มอบช่อดอกไม้ หรือส่งบัตรอวยพรให้กับคนที่รักเรามาตลอดปี คิๆๆ =^w^=
- จัดงานรื่นเริง การจัดเลี้ยงในหมู่เพื่อนฝูง ญาติพี่น้องหรือตามหน่วยงานต่างๆ

วันขึ้นปีใหม่นับเป็นโอกาสดีที่จะทำให้เราได้ทบทวนถึงการสิ่งที่เราทำมาตลอดปี และคิดหาแนวทางปรับปรุงในสิ่งที่ไม่ดี เพื่อจะได้แก้ไขให้ดีขึ้นในปีต่อไป

ทุกๆคนล่ะครับ? เริ่มต้นปรับปรุงตัวเองกันรึยังเอ่ย~? คิๆ ไม่เห็นต้องถามเนอะ ทุกๆคนก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นกันแน่นอน 

( ภาพโดย คุณ คำคม จาก คําคม108  )

จะยังไงก็แล้วแต่ เริ่มต้นปีใหม่แล้วกระผมก็ขอให้ทุกๆคนประสบสุขหมดทุกข์ สมหวังตามประสงค์ในสิ่งที่ดี คิดทำการใดในสิ่งดีก็ให้สำเร็จไปตามนั้นโดยเร็วพลัน ให้มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ ( อันนี้ต้องออกกำลังกายเปป็นประจำแล้วก็กินอาหารครบ 5 หมู่ด้วยนะคร้าบ........ แล้วจะอวยพรทำไมเนี้ย? - -* ) ปราศโรคภัย ภยันอันตรายใดๆอย่าได้กำกร่าย ให้มีแต่โชคดีเรียงรายเข้าหา เงินทองไหลมาเทมาให้ใช้กันไม่ทันมือ 555 และสุดท้าย มีความสุขตลอดปีใหม่นะฮ้าฟ~~~~~~~~~ ฮิ้ว~~~~~~~~

เอาล่ะ ปีใหม่เราก็มาฟังเพลงปีใหม่กันดีกว่า เป็นเพลงที่แต่งแต่งโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชครับ

เพลงวันปีใหม่ (เพลงพรปีใหม่ เพลงพระราชนิพนธ์ในหลวง) 

ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ

( วิดีโอ โดย คุณ bansaytongkanokwalai จาก Youtube )

สวัสดีวันปีใหม่พา ให้บรรดาเราท่านรื่นรมย์
ฤกษ์ยามดีเปรมปรีดิ์ชื่นชม ต่างสุขสมนิยมยินดี
ข้าวิงวอนขอพรจากฟ้า ให้บรรดาปวงท่านสุขศรี
โปรดประทานพรโดยปรานี ให้ชาวไทยล้วนมีโชคชัย
ให้บรรดาปวงท่านสุขสันต์ ทุกวันทุกคืนชื่นชมให้สมฤทัย
ให้รุ่งเรืองในวันปีใหม่ ผองชาวไทยจงสวัสดี
ตลอดปีจงมีสุขใจ ตลอดไปนับแต่บัดนี้
ให้สิ้นทุกข์สุขเกษมเปรมปรีดิ์ สวัสดีวันปีใหม่เทอญ 

เกี่ยวกับ เพลงพรปีใหม่ 
เพลงพระราชนิพนธ์ พรปีใหม่ เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 13 ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2494 เมื่อเสด็จนิวัตพระนคร และประทับ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต มีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานพรปีใหม่ แก่บรรดาพสกนิกรไทยด้วยเพลง จึงทรงพระราชนิพนธ์เพลง "พรปีใหม่" และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องเป็นคำอำนวยพรปีใหม่ แล้วพระราชทานแก่วงดนตรี 2 วง คือ วงดนตรีนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำออกบรรเลง ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวงดนตรีสุนทราภรณ์ นำออกบรรเลง ณ ศาลาเฉลิมไทย ในวันปีใหม่ วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2495 

Credit
data by
ประวัติความเป็นมา วันปีใหม่ by ฅนภูไท @ www.baanmaha.com

picture by
108 คำคม ปีใหม่ by คำคม @ www.คําคม108.com
SMS คำคมอวยพรปีใหม่ by DMC TV @ www.dmc.tv
ส่งความสุขวันปีใหม่คะ by saylompoowangdee @ webboard.sanook.com
ดอกไม้แห่งรัก...ประจำวันเกิด by EiEiKa @ webboard.sanook.com