Wednesday, May 29, 2013

ประวัติ 10 สถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลก อันดับ 3 ปราสาทของวลาด ดารคู ทรานซิลวาเนีย โรมาเนีย 1/2


ภาพโดย TopTenThailand จาก www.toptenthailand.com )

สัตว์อะไรเอ่ยหน้าเหมือนหนู มีปีกบินได้ กินเลือดเป็นอาหารฮ่าๆ คำตอบที่ทุกๆคนจะตอบต้องค้างคาวแน่นอน ก็แห่ม ถ้าเราไม่ได้ลุงฮับราฮัม สโตเกอร์ หรือ บราม สโตเกอร์ มาแต่งเรื่องแด็กคูล่าแล้วไซร้ เราก็คงจะไม่มองค้างคาวว่าเป็นสัตว์ดูดเลือดแน่นอน ^ ^"

แต่อย่างที่ขึ้นหัวเรื่องขอรับ คราวนี้กระผมจะไม่ได้มาพูดเรื่องของลุงบราม แต่กระผมจะมาพูดถึงตัวละครนึงในเรื่องแด็กคูล่าของลุงบรามที่มีอยู่จริงบนโลกนี้นั้นคือ วลาด ดราคูล่า หรือ วลาดที่ จอมเสียบนั้นเองขอรับ

แต่ก่อนจะเข้าสู่เรื่องราวของ วลาด ดราคูล่า กันนั้น กระผมขอพาทุกๆคนไปอ่านข้อเท็จจริงกันสักนิดก่อนนะขอรับ

                                                                               
1. สำหรับ วลาด ดราคูล ก่อนอื่นขอพูดไว้ก่อนละกันนะครับ ความจริงคนดังคนนี้คนไทยค่อนข้างเข้าใจผิดมาก อีกทั้งสารคดียังให้ข้อมูลผิด(บัดโธ่คำว่า ดราคูล ไม่ใช้แปลว่าปีศาจนะครับ ไม่มีพ่อแม่คนไหนตั้งชื่อลูกหรือนนามสกุลว่า ปีศาจ หรอก ใช่ไหมเปล่าครับ ส่วนดราคูลในภาษาโรมาเนียแปลว่ามังกร  ซึ่งมาจากคำว่า ดราก้อน ไงครับ ซึ่งถ้าแปลรวมกันก็คือ “บุตรของมังกร”
2. อีกข้อก็คือต้องเข้าใจด้วยว่าสมัยยุโรปกลางนั้นผู้ปกครองจำเป็นต้องเหี้ยมครับ ถ้าไม่เหี้ยมคนที่อยู่ใต้อาณัติจะอ่อนและดูถูกเอาได้ เพราะช่วงนั้นเป็นยุคสงคราม คนที่จับเป็นเชลย ผู้ปกครองก็สามารถจะทำอะไรก็ได้ จะฆ่าจะปล่อยก็ตามใจ แต่สำหรับวลาดนั้นเลือกแบบเชือดไก่ให้ลิงดูมากกว่าครับ ซึ่งถ้าเราดูประวัติจริงๆ ของเขาคุณจะรู้ว่าเขานั้นเป็นนักปกครองที่เก่งอาจคนหนึ่ง
3. วลาด ดราคูลไม่ใช้คนโรมาเนียนะครับ พ่อของเขาเป็นคนฮังการีต่างหาก
4. ไม่มีบันทึกที่ไหนเลยที่บอกว่า บราม สโตเกอร์ ได้เอาเรื่องของวลาด ดราคูล่ามาเขียนนิยายเรื่อง “เดร็กคูล่า” ผีดิบที่เรารู้จักกัน
5. ตอนนี้คุณอาจ งง ประวัติศาสตร์ยุโรปหน่อยนะครับ เพราะมีหลายศัพท์ที่คุณไม่รู้ ผมว่าควรไปหาหนังสือแบบเรียนมาอ่านก่อน เพื่อเพิ่มรสการอ่าน โดยเฉพาะคำว่า ออตโตมาน ประวัติฮังการี ประวัติโรมาเนีย ยุคมืด อัศวิน ฯลฯ
                                                                                   

เอาล่ะ เรารู้ข้อเท็จเกี่ยวกับลุงวลาดกันแล้ว กระผมก็จะพาไปเจาะลึกกันต่อเลย

ปราสาทของวลาด ดารคู ทรานซิลวาเนีย โรมาเนียตั้งอยู่ที่ โรมาเนีย ประเทศอิตาลี อันที่จริง อย่างที่กระผมเกริ่กไปขอรับ ความน่ากลัวไม่ได้อยู่ที่แดร๊กคูล่าหรือค้าวคาวตัวน้อย แต่อยู่ที่ลุงวลาด ดราคูล่า ต่างหาก


( ภาพโดย ToptenThailand จาก www.toptenthailand.com )

เรื่องราวของวลาดเริ่มต้นเมื่อ 1431 เป็นบุตรของวลาดผู้พ่อ ( ชื่อเหมือนกันขอรับ ) เค้าเกิดในดินแดนทางตอนใต้ของโรมาเนียหรือถ้าเรียกตามสมัยนั้นก็วัลลาเซีย วัลลาเซียก่อตั้งเมื่อ 1290 โดย เจ้าชายรูดอฟ์ เธอะ แบล็ก และก็มีผู้ปกครองรุ่นต่างๆ ผลัดเปลี่ยน ( และแย่งชิง ) กันเรื่อยมา

แต่การปกครองอาณาจักรวัลลาเซียแห่งนี้หาได้ง่ายดายไม่...
เนื่องด้วยดินแดนแห่งนี้ถูกหมายตาจากจักรวรรดิออตโตมาน ซึ่งทำให้เกิดการสู้รบเสมอ แต่นอกจากภัยนอกแล้ว ภัยภายในก็ยังมี จากการที่ราชบังลังก์โดนจ้องจะเสียบ เอ๊ย! จ้องจะครองจากฝ่ายนอกเหนือจากฝ่ายกษัตริย์ ทำให้ต้องนองเลือดกันเนื่องๆ
ในปี 1418 ผู้ปกครองชื่อเจ้าชายเมียร์เซียสิ้นพระชนม์ ทำให้วลาดพ่อของวลาดต้องสืบทอดบังลังก์ต่อ โดยวลาดผู้พ่อเติบโตมาในราชสำนักฮังการีของกษัตริย์ซิกิสมุนด์ พระองค์ทรงได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งพระจักพรรดิแห่งราชสำนักฮังการีแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และได้ทรงตั้งกลุ่มอัศวินสมาคมลับแห่งมังกร(Order of the Dragon) อันเป็นกลุ่มที่พลีชีพเพื่อคริสต์ศาสนาและต่อต้านพวกมุสลินเตอร์ก โดยใช้สัญลักษณ์คือมังกร ซึ่งถือเป็นตราประจำตระกูลของวลาดด้วย
และวลาดจอมเสียบก็เป็นสมาชิกในกลุ่มสมาคมลับแห่งนี้ด้วย
ต่อมาวลาดผู้เป็นพ่อได้รับการแต่งตั้งจากกษัตริย์ซิกิสมุนด์ให้ไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่ทรานซิลเวเนีย และช่วงนี้เองที่วลาด ดราคูล่าได้ลืมตาดูโลก

แต่การที่วลาดผู้พ่อถูกส่งไปเป็นผู้สำเร็จราชการนั้น เขาหาได้ชอบใจไม่ เขาจึงแก้เผ็ดโดยนำกองทัพเข้าชิงบัลลังก์วัลวาเชียจากอเล็กซานดรูที่ 1 จากนั้นก็แปรพักตร์จากฮังการีไปสวามิภักดิ์จักรวรรดิออตโตมานแทน โดยส่งบุตรชายคนเล็กสองคนคือ ราดู และวลาด ดราคูล่า มาเป็นตัวประกัน ณ กรุง คอนสแตนติโนเปิล เป็นเวลา 4 ปีเพื่อประกันความภักดีต่อสุลต่านออตโตมาน
ในปี ค.ศ. 1447 วลาดผู้พ่อและเมียร์ฌซียบุตรชายคนโตถูกฆาตกรรมโดยพวกสมาชิกตระกูลดาเนสติที่มีฮังการีหนุนหลัง  และฮังการีก็ได้แต่งตั้งผู้ขึ้นมาสอด เอ๊ย! ผู้ขึ้นมาปกครองวัลลาเซียคนใหม่แทนที่ แน่นอนเรื่องนี้ทางออตโตมานไม่แฮปปี้เป็นอย่างมาก และต่อต้านผู้ปกครองคนใหม่นี้ ออตโตมานจึงส่งเด็กหนุ่มอดีตตัวประกันอายุ 17 ปี พร้อมกองทัพออตโตมานติดตามไปเพื่อยึดบัลลังก์กลับมา เขาผู้นั้นคือ “วลาด ดราคูล่า”

ภาพจำลองการยกทัพของวลาด ดราคูล่า ( ไม่ใช่ของจริงนะขอรับ )
( ภาพโดย คุณ ชาญชัย (Leo53) จาก www.iseehistory.com )

ด้วยความช่วยรุม เอ๊ย! ช่วยเหลือจากกองทัพออตโตมาน ทำให้วลาด ดราคูล่า สามารถยึดบัลลังก์กลับคืนมาได้ และสถาปนาตนเองเป็นเจ้าชายวลาดที่ 3 แห่งวัลลาเซีย แต่ทว่าความสุขก็สั้น เพียง 2 เดือน เขาก็ถูกไล่กลับขับไล่โดยกองทัพฮังการี ทำให้วลาดต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ ในช่วงเวลานี้เขาต้องเผชิญกับการลอบสังหาร การประหารชีวิต การล้างแค้นกันไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่วลาดก็ผ่านพ้นออกมาได้ มันทำให้เขาเข้มแข็งขึ้น แข็งแกร่งขึ้น ( และซาดิสขึ้น? )
เวลาผ่านไป 7 ปีวลาดผ่านการยึดอำนาจได้ 3 ครั้ง ช่วงนี้เองทำให้ชื่อเสียงของเขาขจรขจายไปทั่วยุโรปในฐานะจอมเผด็จการที่เหี้ยมโหดแห่งยุค
ความอำมหิตของวลาด ดราคูล่าได้กลายเป็นตำนานเล่าขานสืบทอดกันมาในหมู่ชาวโรมาเนีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิสัยที่ชอบ “เสียบ” ศัตรูของเขาแล้วปล่อยให้ค่อยๆ แห้งตายไปท่ามกลางแสงตะวันอันร้อนแรง
วลาดบอกว่าเขาโปรดปรานการเสียบมนุษย์เป็นชีวิตจิตใจ
ความจริงการเสียบมนุษย์นั้นเป็นการลงโทษแบบดั้งเดิมที่ปฏิบัติกันมานานก่อนหน้านั้นแล้ว โดยมักจะใช้ไม้ปลายแหลมเสียบให้ตายโดยพลัน แต่สำหรับวลาดนั้นเขาใช้วิธีเสียบโดยการใช้ไม้ตัดปลายให้ทู่ลมและหยดน้ำมันไว้ที่ปลายไม้นั้นด้วย

ที่วลาดใช้วิธีการเสียบไม้แบบนี้ก็เพราะมีจุดมุ่งหมายไม่ให้เหยื่อตายโดยเร็ว เขาอยากให้เหยื่อตายไปอย่างช้าๆ มากกว่า เพราะเขาอยากให้มันดูสุดหฤหรรษ์เมื่อเห็นเหยื่อกำลังทรมาน ให้เหยื่อเกิดความกลัวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเหยื่อที่โดนวลาดเสียบกว่าจะตายนั้นต้องใช้เวลานานหลายวัน หลายเดือน เลยทีเดียว
การเสียบของวลาดนั้น เขามักเลือกโอกาสหรือวาระสำคัญมากกว่า วลาดมักตั้งใจเลือกเสียบคนหมู่มากในวาระโอกาสสำคัญเช่น งานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่แขกผู้มาเยือนของเขาเพื่อความสนุกสนานตื่นเต้น มันเป็นช่วงเวลาหฤหรรษ์ที่กินเวลานาน เขาจะสั่งทหารให้เหลาไม้เตรียมเอาไว้โดยเลือกขนาดเหมาะๆ ประมาณเท่าแขนผู้ชายที่ล่ำสัน เหยื่อจะถูกเสียบบริเวณหน้าอก แต่การเสียบนั้นเขาจะระมัดระวังไม่ให้เสียบไปโดนอวัยวะสำคัญที่จะทำให้เหยื่อต้องสิ้นใจตายอย่างรวดเร็วเกินไป ความยาวของไม้เสียบนั้นจะเป็นเครื่องหมายบ่งบอกฐานะของผู้ถูกเสียบว่ายศศักดิ์สูงหรือต่ำเพียงใด หลังจากเสียบเหยื่อให้ทะลุร่างแล้ว ไม้ที่เสียบจะถูกตั้งตรงกับฉากที่พื้นดิน ทั้นนี้ก็เพื่อให้น้ำหนักของเหยื่อค่อยๆ กดร่างของเหยื่อให้ปลายไม้นั้นเข้าไปทำลายอวัยวะภายในอย่างช้าๆ
ในระหว่างนั้นเอง วลาดและมิตรสหายของเขาจะดื่มกินกันอย่างเบิกบานอยู่ใกล้ๆ โดนไม่สนเสียงร้องอันโหยหวนและกลิ่นคาวเลือดที่ฟุ้งตลบอบอวนแต่อย่างใด

ตัวอย่างของงานรื่นรมย์นี้ ก็มีเหตุการณ์ในปี ค.ศ.1459 ที่เมืองบราซอฟ เมื่อวลาดโกรธมาก เพราะบรรดาพ่อค้าในเมืองนั้นต่างปฏิเสธที่จะจ่ายภาษี แม้จะได้รับคำเตือนจากวลาดหลายครั้งหลายหนแล้วก็ตาม วลาดเลยสั่งสอนด้วยการบุกโจมตีอย่างนองเลือด เผาเมืองจนเรียบ และจับชาวเมืองจำนวนมากมายมาเสียบไม้ไว้บนเนินเขาเตี้ยๆ ใกล้ๆ กับเมือง
เรื่องที่เมืองบราซอฟยังไม่จบ ในขณะที่เขารับประทานอาหารเย็นกับเพื่อนทหารในบริเวณที่เสียบคนอยู่นั้น ลูกน้องขวัญอ่อนคนหนึ่งของเขาเอามือปิดจมูกเพราะทนกลิ่นคาวเลือดและเนื้อสดๆ แรงๆ ไม่ได้ และจนเกิดสำลักอ้วก และเมื่อวลาดเห็นอากัปกริยาเช่นนี้ วลาดจึงสั้งให้มีการเสียบลูกน้องคนนั้น โดยใช้ไม้สูงกว่าคนอื่นๆ ซึ่งถือเป็นเกียรติแก่ผู้ร่วมรบกับเขามานาน

ตอนที่ 2 >> คลิก

Credit:
data by

picture by

No comments:

Post a Comment

เรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง คิดยังไง คอมเม้นต์ได้เลย เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วย ^w^